นายเศรษฐา ทวีสิน
กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ
จะเปิดตัวโครงการใหม่ที่ชื่อว่า “CEIL by Sansiri” (ซีล บาย แสนสิริ)
ซึ่งนับเป็นคอนโดมิเนียมโครงการแรกของปีนี้รวมทั้งเป็นคอนโดมิเนียมโครงการ
ล่าสุดภายใต้คอลเลคชั่น ‘Live with attitude’
ที่บริษัทพัฒนาแนวคิดต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา
จากการรวบรวมไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของกลุ่มลูกค้าในกรุงเทพฯ
ที่มีความหลากหลายแตกต่างกันไปในด้านต่างๆ
โดยเฉพาะโครงการนี้นับว่ามีความโดดเด่นที่ชัดเจนทั้งในด้านไลฟ์ไสตล์การอยู่
อาศัยในทำเลใจกลางเอกมัย อันเป็นแหล่งรวมไลฟ์สไตล์สุดฮิปของคนกรุงเทพฯ
รวมทั้งยังตอบรับฟังก์ชันการอยู่อาศัยได้อย่างแท้จริง
มีมูลค่าโครงการขายรวม 1,700 ล้านบาท โดยบริษัทฯ จะจัดงาน Pre –
Saleเพื่อเปิดตัวโครงการ ซีล บาย แสนสิริ อย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 5 –
6 มีนาคมนี้ ที่ Vertical Living Gallery (ระหว่างซอยสุขุมวิท 34 – 36)
ในราคาเริ่มต้นเพียง 2.6 ล้านบาท
“ซอยเอกมัย
นับเป็นทำเลที่อยู่อาศัยที่ได้รับความนิยมอีกแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งศักยภาพของที่ดินในทำเลดังกล่าว
มีอัตราการเปลี่ยนแปลงสูงเป็นอันดับ 1 ของที่ดินในย่าน CBD ทั้งหมด
หรือคิดเป็นเติบโตกว่า 40% ภายในระยะเวลาเพียง 3 ปี
เนื่องจากเป็นทำเลที่เป็นศูนย์กลางแหล่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครับ
ไม่ว่าจะเป็นซุปเปอร์มาเก็ต, ร้านอาหาร และแหล่ง Hangout
ซึ่งเป็นที่นิยมมากมาย รวมทั้งยังสามาถเดินทางเข้าออกได้สะดวกสบาย
ทะลุเข้าออกได้หลากหลายเส้นทาง สำหรับคำว่า “ซีล” นั้น มีความหมายถึง สีฟ้า
อม เทา โดยสีฟ้า สื่อถึงความสุขสบาย นุ่มนวล และความปลอดโปร่งผ่อนคลาย
และสีเทาสื่อถึง ความมั่นคง และบุคลิกที่สะท้อนความเป็นตัวเอง
โดยโครงการนี้นับว่ามีความโดดเด่น
ทั้งในด้านไลฟ์ไสตล์การใช้ชีวิตท่ามกลางแหล่งอำนวยความสะดวกครบครัน
นอกจากนี้รูปแบบโครงการยังมีความโดดเด่นในด้านฟังก์ชั่นการอยู่อาศัย
โดยนับเป็นครั้งแรกของคอนโดมิเนียมแสนสิริที่มีที่จอดรถหน้าห้อง
สำหรับห้องชั้น 1 ที่เป็นห้องดูเพล็กซ์
มีระเบียงขนาดใหญ่ที่สามารถใช้งานได้จริง
รวมทั้งวิวมุมมองกว้างที่ไม่เหมือนใคร
รวมถึงในส่วนสาธารณูปโภคยังประกอบด้วย
ล้อบบี้พร้อมห้องสมุดในแบบอินดอร์และเอาท์ดอร์อีกด้วย” นายเศรษฐา กล่าว
โครงการคอนโดมิเนียม ซีล บาย แสนสิริ ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 63
หรือเอกมัย 12 (ซอยเจริญใจ)
ซึ่งเป็นซอยที่เชื่อมระหว่างถนนสุขุมวิทและถนนเพชรบุรีตัดใหม่ที่สามารถเดิน
ทางเข้าออกสู่หลากหลายเส้นทางได้อย่างสะดวก อาทิ ถนนพระรามเก้า
และถนนเลียบทางด่วนเอกมัย – รามอินทรา
รวมทั้งยังอยู่ใกล้สถานที่ตอบรับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตต่างๆ อาทิ Arena10,
Villa Market, J-Avenue, Major Ekamai, Beauty Spa, ร้านวัฒนา พานิช
ชื่อดังในซอยเอกมัยและ Trendy Restaurant มากมาย
โครงการประกอบด้วยอาคารชุดพักอาศัยสูงประมาณ 8, 14 และ 17 ชั้น จำนวน 3
อาคาร ที่แบ่งสัดส่วนชัดเจนเป็นห้องชุดพักอาศัยจำนวน 2 อาคาร
และอาคารจอดรถอีก 1 อาคาร พร้อมล้อบบี้แยกอาคาร เพื่อความเป็นส่วนตัวสูงสุด
รวมทั้งยังมีการวาง Lay-out
ให้รูปทรงอาคารมีมุมมองให้ทุกห้องเกิดวิวที่ไม่ถูกบดบังกัน
และสามารถใช้พื้นที่ว่างร่วมกันได้ จำนวนรวมทั้งสิ้น 374 ยูนิต
นอกจากนี้ยังประกอบด้วยสาธารณูปโภคส่วนกลาง อาทิ สระว่ายน้ำ
ห้องออกกำลังกาย สวนและมุมพักผ่อนแบบเอาท์ดอร์พร้อม Wi-fi Internet
ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมงพร้อม CCTV เป็นต้น
นอกเหนือจากนี้โครงการยังมีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์สภาพแวดล้อมพื้นที่โดย
รอบโครงการโดยจะมีการปรับภูมิทัศน์ให้มีความสวยงามน่าอยู่อาศัยควบคู่กันไป
ซึ่งเป็นหนึ่งในความรับผิดชอบต่อสังคมที่แสนสิริดำเนินการตลอดมา
“สำหรับ
ยอดขายโครงการที่อยู่อาศัยต่างๆ ของแสนสิริตั้งแต่ต้นปีจนถึงขณะนี้
บริษัทสามารถสร้างยอดขายได้แล้วกว่า 2,500
ล้านบาทเติบโตต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา โดยมาตรการ LTV
ที่ประกาศใช้สำหรับที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียมตั้งแต่ช่วงต้นปี
ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการขายคอนโดมิเนียมของบริษัทแต่อย่างใด
เนื่องจากลูกค้ายังคงให้ความไว้วางใจในที่อยู่อาศัยภายใต้แบรนด์แสนสิริ
เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
เป็นผลความสำเร็จจากแผนธุรกิจด้านการให้ความสำคัญกับกลยุทธ์การสร้างแบรนด์
แสนสิริให้เป็นที่ยอมรับ
ซึ่งบริษัทดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่องในระยะเวลากว่า 3 ปีที่ผ่านมา
สำหรับการเปิดตัวโครงการ ซีล บาย แสนสิริ รวมทั้งโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ๆ
เพื่อตอบรับความต้องการอยู่อาศัยของกลุ่มลูกค้าในปีนี้จะมีต่อเนื่องไปตลอด
ทั้งปีตามแผนธุรกิจที่วางไว้
รวมทั้งมั่นใจว่าจะสามารถสร้างรายรับและกำไรให้เติบโตขึ้นอีกในปลายปี 2554
ได้อีกประมาณ 10% ใกล้เคียงกับปี 2553” นายเศรษฐา กล่าว